ปัจจุบันแลคเกอร์มีรูปแบบให้เราเลือกหลากหลาย และวันนี้ที่เราจะพูดถึงไม่อาจมองข้ามแลคเกอร์ด้าน 2k ไปได้ โดยที่บางคนอาจจะอยากรู้อยากใส่ใจว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร และเพื่อให้เข้าใจก่อนเลือกใช้งานเราก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้ศึกษา ว่าแล้วก็ไปติดตามข้อมูลกันเลยดีกว่า
ลักษณะของแลคเกอร์ด้าน 2k ที่ปัจจุบันได้รับความนิยม
สำหรับแลคเกอร์ด้าน 2k นี้นั้นต้องยอมรับว่ามีความคล้ายกับแลคเกอร์ 2k ทั่วไปอย่างมาก เพียงแค่ลักษณะการพ่นลงรถไปแล้วจะมีความด้าน แห้งเรียบ ไม่มีความมันวาวใด ๆ เกิดขึ้นเลย เป็นสีที่ควรค่าต่อการได้รับการดูแลมากขึ้น ให้ความหรูหรา สวยงาม เรียบหรูมีสไตล์ โดยที่จะเป็นอีกชนิดในการเรียกที่จะมีตัวฮาร์ดแยกออกมา มีการผสมตัวฮาร์ดกับแลคเกอร์ก่อนไม่อย่างนั้นอาจไม่แห้งได้
ความแตกต่างจากรูปแบบ 1k คือไม่ต้องผสมฮาร์ดแต่อย่างใด มีการใช้ทินเนอร์ผสมแล้วพ่นได้ทันทีไม่ต้องรอทำอะไรอีก เหมาะกับการนำมาใช้ซ่อมสีรถอย่างมาก และเป็นการใช้ที่ง่ายกว่าแลคเกอร์ 2k ทั่วไป เพราะไม่ต้องมีการขัดรถก่อน ซึ่งเราสามารถพ่นได้เลยกับวัสดุ รถ หรืออะไรก็ตาม 2 – 3 ชั้น ก็สามารถใช้งานได้เลย
แต่ความด้านเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้มีความด้านมาก หรือด้านน้อย ลูบรถหลังพ่นเสร็จแล้วมีความสากเล็กน้อยก็ใช้กระดาษทรายน้ำขัดเก็บงานไล่ไปตามเบอร์ 1000, 1500, 2000 ได้แล้ว แล้วขัดด้วยน้ำยาขัดทำความสะอาด
สินค้าแนะนำ
แล้วเราควรพ่นทับซ้ำหลายรอบหรือไม่ ต้องรอนานเท่าไหร่เพื่อสีแห้ง
ใช้พ่นแลคเกอร์ด้าน 2k นี้นั้นควรพ้นแค่ 2 รอบเท่านั้น โดยให้พ่นรอบที่ 2 หลังจากที่พ่นรอบแรกไปแล้ว 10 – 15 นาที อย่าปล่อยให้เกินเวลามากกว่านี้เพราะจะทำให้ตัวของแลคเกอร์มีปัญหาตามมาได้ โดยที่ความสามารถในการแห้งนั้น จะเป็นการพ่นที่ใช้เวลา 2 – 3 ชม. ก็สามารถสัมผัสได้แล้ว แต่ถ้าจะให้แห้งแบบสนิทก็ต้องรอ 12 – 24 ชม. หลังจากที่พ่นเสร็จเรียบร้อยในครั้งสุดท้าย และทั้งนี้วันที่อากาศชื้นไม่แนะนำให้พ่นเพราะมีโอกาสที่จะเกิดเป็นฝ้าขาวติดรถได้
สรุป
เรียกได้ว่าเป็นอีกความน่าสนใจของสีแลคเกอร์ อย่าง แลคเกอร์ด้าน 2k ที่มีให้เราเป็นอีกทางเลือกในการเข้าถึง ซึ่งหากใครมั่นใจในการใช้งานมากขึ้นแล้วก็ลองซื้อมาได้เลย เป็นการซ่อมรถให้เหมือนใหม่ด้วยสีที่ใช่สีที่ตัวเองชอบ และถ้าจะให้แนะนำอย่าลืมพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์จากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากวนใจตามมาหลังใช้ขึ้น