หลายคนเมื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์มาแล้วอาจต้องการเพิ่มการตกแต่งที่ถูกใจมากขึ้น คุณสามารถเลือกใช้สีพ่นมอเตอร์ไซค์ได้ ทว่าการเลือกใช้สีพ่นที่ดีมีคุณภาพควรต้องมีคุณสมบัติอย่างไร? เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง สามารถเลือกมาใช้งานได้ประสิทธิภาพ เราไม่รอช้ามีข้อมูลมาให้ศึกษา พร้อมแนะนำวิธีใช้เบื้องต้นเพิ่มเติม
คุณสมบัติของสีพ่นมอเตอร์ไซค์ที่ควรมี
หากคุณกำลังมองหาสีพ่นมอเตอร์ไซค์ต้องพิจารณาด้านคุณสมบัติที่มีอย่างละเอียดด้วย เพื่อการนำมาใช้งานให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าคุณสมบัติที่ควรมีนั้น อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของความทนทาน เมื่อพ่นไปแล้วจะอยู่ติดกับตัวรถได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม
ทนทานได้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทั้งฝนตก หรือแดดออกซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ใน 1 วัน รวมถึงความทนทานต่อสารเคมีต่าง ๆ ทั้งน้ำมันเบรก หรือทินเนอร์ที่อยู่กับรถของมาแต่แรก ทั้งนี้ ยังควรมีคุณสมบัติอื่น ๆ ร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น
- ความเงางามที่ฉีดแล้วต้องมีสูง เพื่อความสวยงามของตัวรถ
- ลักษณะสีที่พ่นออกมาต้องมีเนื้อหนาแน่น สดใส ไม่เหนียวเป็นก้อน เพราะแบบนั้นกำลังบ่งบอกว่าเสื่อมสภาพแล้ว
- สามารถใช้ได้กับทุกพื้นผิวของมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีหลายประเภท
- เมื่อฉีดพ่นลงไปแล้วต้องแห้งไวไม่เกิน 10 – 15 นาที และไม่เกิดเป็นคราบจนสังเกตเห็นชัดด้วย
สินค้าแนะนำ
วิธีใช้สีพ่นมอเตอร์ไซค์เบื้องต้นเพื่อการใช้งานที่เหมาะสม
รู้ถึงคุณสมบัติของสีพ่นมอเตอร์ไซค์กันไปแล้ว เผื่อใครสนใจพ่นด้วยตนเอง อยากรู้วิธีใช้งานเบื้องต้นเพื่อความเหมาะสม สวยงาม ก็มีคำแนะนำดี ๆ มาบอกต่อ
1. จัดการสิ่งสกปรกที่ตัวรถก่อน
ก่อนจะเริ่มต้นใช้สีพ่นไปที่มอเตอร์ไซค์ได้นั้น จำเป็นต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย นำสิ่งสกปรก ฝุ่นผง หรือคราบไขมันต่าง ๆ ออกจนหมด โดยหลังจากล้างทำความสะอาดเรียบร้อยอย่าลืมนำผ้าแห้งมาเช็ดตัวรถอีกครั้งจนกว่าจะแห้งสนิทด้วย แถมยังช่วยป้องกันสนิมขึ้นด้วยนะ
2. เขย่ากระป๋องสีพ่น
ขั้นตอนต่อมาที่ต้องทำหลังล้างทำความสะอาดรถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงเช็ดจนตัวรถแห้งสนิท ก็คือการเขย่ากระป๋องสีเพื่อให้สีกระจายทั่วก่อนใช้งาน เขย่าประมาณ 1 – 2 นาที หรือจนกว่าเสียงลูกแก้วที่อยู่ในกระป๋องจะดังสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ระหว่างที่ทำการใช้สีพ่นมอเตอร์ไซค์ต้องมีการเขย่ากระป๋องเป็นระยะเพื่อไม่ทำให้สีนอนก้น
3. ขณะพ่นต้องห่างจากรถ 1 ฟุต
ในช่วงที่กำลังพ่นสีไปยังมอเตอร์ไซค์ นอกจากการเขย่าพร้อมพ่นไปด้วยแล้ว ต้องมีการกำหนดระยะห่างระหว่างหัวฉีด และตัวรถด้วย โดยทั่วไปคือ 1 ฟุต ทั้งนี้ ต้องมีการพ้นทับหน้า 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สีดีที่สุด โดยครั้งแรกเปรียบเสมือนพ่นบาง ๆ รองพื้น แล้วปล่อยให้แห้ง 10 – 15 นาที ก่อนที่จะพ่นทับต่อในรอบที่สอง
4. อย่าลืมล้างหัวพ่น
สุดท้ายหลังจากที่มีการใช้งานกันเสร็จสิ้น ต้องไม่ลืมล้างหัวพ่นด้วย โดยให้คว่ำกระป๋องลง แล้วกดตรงหัวฉีดเพื่อพ่นลมออกมา เป็นการป้องกันหัวฉีดไม่ให้อุดตัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม :
- วิธีใช้สเปรย์พ่นสีรถยนต์ที่เหมาะสม เสมือนรถไม่เคยเกิดรอย
- ประมาณการทําสีรถมอเตอร์ไซค์ราคาเท่าไหร่ เลือกร้านยังไง?